ดึงหน้าเมื่อไหร่ดี ? คู่มือพิจารณาเวลาย้อนวัยให้เป๊ะปัง

สวัสดีค่ะทุกคนนน ใครที่เริ่มรู้สึกว่าหน้าตาไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน มีริ้วรอยถามหา ผิวหน้าหย่อนคล้อย การ “ดึงหน้า” หรือ Facelift ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ แต่เอ๊ะ! แล้วเมื่อไหร่กันล่ะที่เราควรเริ่มพิจารณาการดึงหน้า? วันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ

สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องคิดเรื่องดึงหน้า

  1. ผิวหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด: 
    • บริเวณแก้มและขากรรไกร: ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนเดิม
    • ลำคอ: ผิวบริเวณลำคอเริ่มมีริ้วรอย หรือหย่อนคล้อยลงมา
  2. ริ้วรอยและเส้นริ้วรอยที่ลึกขึ้น: 
    • ร่องแก้ม: เส้นริ้วรอยที่ลากจากจมูกถึงมุมปากเห็นชัดเจนขึ้น
    • รอบดวงตาและหน้าผาก: ริ้วรอยไม่หายไป แม้ตอนที่หน้าผ่อนคลาย
  3. หน้าดูไม่เป็นทรง: 
    • แก้ม: แก้มดูแบนลง ไม่เต็มเหมือนเมื่อก่อน
    • ริมฝีปาก: ริมฝีปากดูบางลง ไม่เต่งตึง
  4. ไม่พอใจกับภาพลักษณ์ตัวเอง: 
    • ความมั่นใจลดลง: รู้สึกไม่มั่นใจเวลาเจอผู้คน
    • หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางสังคม: ไม่อยากถ่ายรูป หรือไปงานสังสรรค์ เพราะไม่พอใจหน้าตาตัวเอง

อายุเท่าไหร่ถึงเหมาะกับการดึงหน้า?

จริงๆ แล้วไม่มีอายุที่ตายตัวสำหรับการดึงหน้า เพราะแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน บางคนอายุ 40 กว่าๆ ผิวก็ยังเต่งตึง ในขณะที่บางคนอายุ 30 กว่าๆ ผิวก็เริ่มหย่อนคล้อยแล้ว

แต่โดยทั่วไปแล้ว คนที่เริ่มพิจารณาการดึงหน้า มักจะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น และมีริ้วรอยให้เห็นชัดเจน

ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ

  1. สุขภาพร่างกายที่ดี: 
    • ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง: เช่น โรคหัวใจ เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
    • ไม่สูบบุหรี่: เพราะการสูบบุหรี่อาจส่งผลกระทบต่อการหายของแผล
  2. ความคาดหวังที่เป็นจริง: 
    • เข้าใจผลลัพธ์: การดึงหน้าช่วยให้หน้าดูเด็กลง แต่ไม่ได้หยุดความแก่
    • ยอมรับการเปลี่ยนแปลง: ต้องเข้าใจว่าหลังผ่าตัด หน้าตาอาจจะไม่เหมือนเดิม 100%
  3. สภาพจิตใจ: 
    • ไม่เครียดหรือซึมเศร้า: สภาพจิตใจต้องพร้อมสำหรับการผ่าตัด
    • ตัดสินใจด้วยตัวเอง: ไม่ใช่เพราะคนอื่นยุ
  4. งบประมาณ: 
    • ค่าผ่าตัด: การดึงหน้ามีค่าใช้จ่ายสูง ควรเตรียมเงินให้พร้อม
    • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: เช่น ค่ายา ค่าดูแลหลังผ่าตัด

ทางเลือกอื่นๆ ก่อนการดึงหน้า

ถ้ายังไม่อยากผ่าตัด ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยทำให้หน้าดูเด็กลงได้ เช่น

  1. ฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์: 
    • โบท็อกซ์: ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ
    • ฟิลเลอร์: ช่วยเติมเต็มริ้วรอย และทำให้หน้าดูอิ่มฟูขึ้น
  2. ยกกระชับด้วยเครื่องมือ: 
    • Ultherapy: ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ยกกระชับผิว
    • Thermage: ใช้คลื่นวิทยุกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  3. ดูแลผิว: 
    • ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดริ้วรอย
    • ทาครีมกันแดดทุกวัน

ปรึกษาศัลยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาศัลยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อให้ศัลยแพทย์ประเมินสภาพผิว และแนะนำวิธีที่เหมาะสมสำหรับคุณ

สรุป

การตัดสินใจดึงหน้าเป็นเรื่องใหญ่ ควรพิจารณาหลายๆ ปัจจัย ทั้งเรื่องสุขภาพ สภาพจิตใจ และงบประมาณ สิ่งที่สำคัญคือการปรึกษาศัลยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

The #1 medical tourism platform